ข้อดีและข้อเสียของการใช้แปรงสีฟันไฟฟ้า

แปรงสีฟันไฟฟ้าได้กลายเป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับผู้คนมากมายในโลกในการดูแลฟัน ในขณะที่แปรงสีฟันธรรมดายังคงมีอยู่และใช้งานกันอย่างแพร่หลาย แปรงสีฟันไฟฟ้ากำลังได้รับความนิยมเนื่องจากประสิทธิภาพและความสะดวกในการใช้งาน อย่างไรก็ตามเช่นเดียวกับผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ที่มีทั้งข้อดีและข้อเสียในการใช้งาน ในบทความนี้เราจะดูข้อดีและข้อเสียของการใช้แปรงสีฟันไฟฟ้า

แปรงสีฟันไฟฟ้าคืออะไร?

แปรงสีฟันไฟฟ้าเป็นแปรงสีฟันที่ใช้ไฟฟ้าเพื่อให้หัวแปรงเคลื่อนที่ การเคลื่อนไหวนี้ช่วยในการกำจัดคราบจุลินทรีย์และอนุภาคอาหารออกจากฟันซึ่งจะช่วยปรับปรุงสุขภาพทันตกรรมโดยรวม แปรงสีฟันไฟฟ้าแบ่งออกเป็นสองประเภท:
แปรงสีฟันแบบหมุนและแปรงสีฟันโซนิค แปรงสีฟันโซนิคสั่นด้วยความถี่สูงเพื่อสร้างการเคลื่อนไหวในขณะที่แปรงสีฟันแบบสั่นหมุนขยับหัวแปรงไปมา

ข้อดีของการใช้แปรงสีฟันไฟฟ้า

1. มีประสิทธิภาพมากขึ้นในการกำจัดคราบจุลินทรีย์

มีผลการวิจัยว่าแปรงสีฟันไฟฟ้ามีประสิทธิภาพมากกว่าแปรงสีฟันแบบธรรมดาที่ขจัดคราบจุลินทรีย์ เป็นเพราะการเคลื่อนไหวของหัวแปรงซึ่งช่วยในการกำจัดคราบจุลินทรีย์และแบคทีเรียออกจากฟันได้ง่ายกว่าแปรงด้วยตนเอง แปรงสีฟันไฟฟ้ามีตัวจับเวลาซึ่งทำให้มั่นใจได้ว่าผู้ใช้ จะแปรงฟันด้วยเวลาที่เหมาะสมคือเวลา 2 นาที ส่งผลให้การทำความสะอาดนั้นเพียงพอและมีประสิทธิภาพ 

2. ใช้งานง่ายกว่า

แปรงสีฟันไฟฟ้าจะใช้งานได้ง่ายกว่าแปรงสีฟันแบบธรรมดาด้วยมือโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ป่วยที่เคลื่อนไหวมือและแขนได้ลำบาก แปรงสีฟันไฟฟ้าต้องการให้ผู้ใช้ ใช้เพียงแค่หัวแปรง แปรงรอบฟันของพวกเขา ในขณะที่แปรงสีฟันด้วยมือต้องขยับตัวแปรงทั้งด้าม สิ่งนี้อาจสร้างความลำบากต่อผู้ที่มีโรคไขข้ออักเสบหรือโรคอื่น ๆ ที่ทำให้ความแข็งแรงของมือหรือแขนลดลง

3. มีศักยภาพในการปรับปรุงสุขภาพเหงือก

แปรงสีฟันไฟฟ้ายังสามารถช่วยให้สุขภาพเหงือกดีขึ้นได้ การเคลื่อนไหวของหัวแปรงช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดในเหงือกซึ่งสามารถช่วยในการลดการอักเสบ นี่เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่เป็นโรคเหงือกเพราะสามารถช่วยให้พวกเขาปรับปรุงสภาพและหลีกเลี่ยงความเสียหายเพิ่มเติม

4. สามารถสนุกสนานได้มากขึ้น

แปรงสีฟันไฟฟ้าสามารถใช้งานได้มากกว่าแปรงสีฟันแบบมือ แปรงสีฟันไฟฟ้าจำนวนมากรวมถึงการตั้งค่าและคุณสมบัติที่หลากหลายเช่นตัวจับเวลา, เซ็นเซอร์ความดันและตัวเลือกปรับการเคลื่อนไหวของหัวแปรง คุณสมบัติเหล่านี้สามารถเพิ่มความเพลิดเพลินในการแปรงฟันและกระตุ้นให้ผู้คนแปรงเป็นระยะเวลานานขึ้น

5. สร้างพฤติกรรมการแปรงที่ดีขึ้น

แปรงสีฟันไฟฟ้ายังสามารถช่วยในการพัฒนานิสัยหรือพฤติกรรมการแปรงฟันที่ดี ตามที่ระบุไว้ก่อนหน้านี้แปรงสีฟันไฟฟ้ามีตัวจับเวลาที่ช่วยให้ผู้ใช้แปรงด้วยเวลา 2 นาทีที่ถูกต้องตามคำแนะนำ สิ่งนี้ส่งเสริมนิสัยการแปรงที่ดีโดยกระตุ้นให้ผู้ใช้แปรงเป็นระยะเวลาที่เพียงพอ นอกจากนี้แปรงสีฟันไฟฟ้าจำนวนมากมีเซ็นเซอร์ที่เตือนผู้ใช้เมื่อใช้แรงกดแปรงมากเกินไปซึ่งสามารถช่วยป้องความเสียหายของฟันและเหงือก

ข้อเสียของการใช้แปรงสีฟันไฟฟ้า

1. ราคาแพง

แปรงสีฟันไฟฟ้ามีราคาสูงกว่าแปรงสีฟันธรรมดาค่อนข้างเยอะ โดยอาจมีราคาสูงกว่า 3,000 บาท หรือมากกว่า นอกจากนี้แปรงสีฟันไฟฟ้าจำเป็นต้องเปลี่ยนหัวแปรงเป็นประจำซึ่งอาจมีค่าใช้จ่ายที่สูงเพิ่มไปอีก

2. ต้องชาร์จไฟ

การชาร์จแปรงสีฟันไฟฟ้าอาจไม่สะดวกสำหรับบางคน แปรงสีฟันไฟฟ้าอาจต้องชาร์จทุก 2 – 3 วันหรือสัปดาห์ละครั้งขึ้นอยู่กับแบรนด์และรุ่น นี่อาจเป็นปัญหาสำหรับผู้ที่เดินทางบ่อยหรือไม่สามารถหาที่ชาร์จนอกสถานที่ได้

3. มีเสียง

แปรงสีฟันไฟฟ้าบางตัวค่อนข้างเสียงดังซึ่งอาจสร้างความรำคาญให้กับคนอื่น ๆ ในบ้านได้

4. แรงเกินไปสำหรับผู้ใช้บางคน

ผู้ใช้บางคนโดยเฉพาะผู้ที่มีฟันหรือเหงือกที่บอบบาง อาจพบว่าแปรงสีฟันไฟฟ้ามีกำลังการแปรงที่แรงเกินไป ความถี่และแรงของหัวแปรงอาจทำให้เกิดความรู้สึกไม่สบายหรือเจ็บปวดได้ ทำให้ผู้ใช้แปรง แปรงได้ไม่ค่อยเต็มประสิทธิภาพเท่าที่ควร ในกรณีเช่นนี้แปรงสีฟันด้วยตนเองอาจจะดีกว่า

5. อาจต้องใช้เวลาปรับตัว

บางคนอาจต้องใช้เวลาปรับตัวให้เข้ากับการใช้แปรงสีฟันไฟฟ้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากพวกเขาคุ้นเคยกับการใช้แปรงสีฟันแบบมือ การเคลื่อนไหวของหัวแปรงอาจแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญจากการแปรงด้วยตนเองและอาจใช้เวลาพอสมควรสำหรับผู้ใช้ในการปรับความรู้สึก

6. ไม่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

แปรงสีฟันไฟฟ้าเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมน้อยกว่าแปรงสีฟันแบบธรรมดา มันทำงานด้วยแบตเตอรี่หรือไฟฟ้าซึ่งก่อให้เกิดของเสียและมลพิษ นอกจากนี้หัวแปรงที่เปลี่ยนได้มักทำจากพลาสติกซึ่งเป็นเรื่องยากที่จะรีไซเคิล

สรุปว่าแปรงสีฟันไฟฟ้ามีข้อได้เปรียบหลายประการมากกว่าแปรงสีฟันแบบธรรมดารวมถึงประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นความสะดวกในการใช้งานสุขภาพช่องปากที่ดีขึ้นและความสามารถในการพัฒนานิสัยหรือพฤติกรรมการแปรงที่ดี อย่างไรก็ตามพวกเขามีข้อเสียบางอย่างเช่นค่าใช้จ่าย, ต้องมีการชาร์จและความรู้สึกไม่สบายที่อาจเกิดขึ้นสำหรับผู้ใช้ที่มีฟันหรือเหงือกที่บอบบาง ไม่ว่าจะใช้แปรงสีฟันไฟฟ้าหรือแปรงสีฟันธรรมดาเป็นตัวเลือกส่วนบุคคลที่ควรอยู่บนพื้นฐานของความต้องการและความสะดวกส่วนบุคคล

➣ ตกลงว่าแปรงสีฟันไฟฟ้า กับ แปรงสีฟันธรรมดา 2 ชนิดนี้แบบไหนดีกว่ากัน?